กระบวนการ (Process)
อาหาร
-
1.การวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการในข้าวหักสายพันธุ์ต่างๆ
2.การวัดฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH assay
3.การวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดด้วยวิธี Folin–Ciocalteu
4.การวิเคราะห์ปริมาณวิตามินที่ละลายในน้ำและในไขมันด้วยเทคนิค HPLC
5.การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสีของข้าวกับปริมาณสารอาหาร
การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากงานวิจัยเรื่องการระบุสารอาหารและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในข้าวหักราคาถูกมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรสามารถทำได้หลายแนวทาง ดังนี้
ประการแรก การคัดเลือกวัตถุดิบสมุนไพรสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์สีเพื่อประเมินคุณภาพและปริมาณสารสำคัญเบื้องต้น ร่วมกับการวัดฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH assay และการวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิก วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้สามารถคัดกรองสมุนไพรที่มีศักยภาพสูงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ประการที่สอง การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์สามารถทำได้อย่างมีหลักการมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ปริมาณวิตามินด้วยเทคนิค HPLC เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ ความรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสีกับปริมาณสารสำคัญยังช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีสีสันน่าสนใจควบคู่ไปกับการมีประสิทธิภาพที่ดี
ประการที่สาม การควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์สมุนไพรสามารถทำได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยประยุกต์ใช้วิธีการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบคุณภาพของทั้งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยเฉพาะการใช้เทคนิค HPLC ในการติดตามปริมาณสารสำคัญตลอดกระบวนการผลิตและการเก็บรักษา
ประการที่สี่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะทางสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำข้อมูลฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย หรือใช้ข้อมูลปริมาณวิตามินในการพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินจากธรรมชาติ
ประการที่ห้า การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรสามารถทำได้โดยใช้ผลการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนการกล่าวอ้างสรรพคุณ และนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์
ประการที่หก การใช้วัตถุดิบทดแทนสามารถทำได้โดยประยุกต์ใช้แนวคิดการใช้วัตถุดิบราคาถูก เช่น การใช้ส่วนของสมุนไพรที่มักถูกทิ้งแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้วยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ประการสุดท้าย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมผสานสามารถทำได้โดยนำแนวคิดการผสมข้าวหลายสายพันธุ์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ผสมผสานสมุนไพรหลายชนิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่หลากหลาย
โดยสรุป การนำเทคโนโลยีและวิธีการวิเคราะห์เหล่านี้มาประยุกต์ใช้จะช่วยยกระดับกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น สามารถควบคุมคุณภาพได้ดีขึ้น และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคในระยะยาว
1.ใช้วัตถุดิบที่เป็นผลพลอยได้จากการสีข้าว (ข้าวหัก) ซึ่งมีราคาถูก
2.ศึกษาข้าวหลากหลายสายพันธุ์ทั้งข้าวขาวและข้าวสี
3.ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ที่หลากหลายและเป็นมาตรฐาน
4.พบว่าข้าวสีมีคุณค่าทางโภชนาการและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าข้าวขาว
5.สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพได้
0.00 บาท
สถานที่ | พื้นที่ |
---|
-
-
-
สิทธิ์ | ชื่อ-นามสกุล | หน่วยงาน | เบอร์โทร |
---|
-
จำนวนผู้เข้าชม: 38